การเปลี่ยนแปลงอำนาจ ในประเทศเวียดนาม ประธานาธิบดี เหงียน ซวน ฟุก ของเวียดนาม ประกาศว่าเขาจะก้าวลงจากตำแหน่ง ซึ่งจุดชนวนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอำนาจที่อาจเกิดขึ้นในหมู่ผู้นำของประเทศที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีข่าวลืออย่างกว้างขวางและติดตามการจากไปของรองนายกรัฐมนตรีสองคนที่ดำรงตำแหน่งภายใต้เขา นายฟุก อดีตนายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตั้งแต่ปี 2564 ข่าวที่เขากำลังจะลาออกเกิดขึ้นระหว่างการต่อต้านการคอร์รัปชันที่นำโดยกลุ่มหัวแข็ง สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์หลายร้อยคนกำลังถูกสอบสวน
การลาออกของประธานาธิบดีต้องได้รับการอนุมัติจากสมัชชาแห่งชาติ ซึ่งจะมีการลงคะแนนเสียงแบบวิสามัญในวันพุธนี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นพิธีการ การยืนยันจากสื่อของทางการเวียดนามว่าประธานาธิบดีกำลังจะลาออกหลังมีการคาดการณ์ว่าเขาจะออกจากตำแหน่งหลายสัปดาห์
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
การเปลี่ยนแปลงอำนาจ ที่เริ่มต้นใหม่
แถลงการณ์ของพรรคยกย่องความเป็นผู้นำของนายฟุก แต่กล่าวว่าเขามีความรับผิดชอบทางการเมืองต่อการละเมิดและการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่จำนวนมากภายใต้เขา เช่นเดียวกับรองนายกรัฐมนตรีสองคนที่ลาออกเมื่อต้นเดือนนี้ รัฐมนตรีสองคนและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ กำลังเผชิญกับข้อกล่าวหาทางอาญา
ในขณะที่เขาตระหนักดีถึงความรับผิดชอบของเขาต่อพรรคและประชาชน ฟุกจึงยื่นคำร้องขอลาออกจากตำแหน่งและเกษียณอายุ ถ้อยแถลงระบุ แต่เลขาธิการใหญ่สายแข็ง เหงียนฟู้จ่อง ซึ่งได้รับตำแหน่งสมัยที่สามอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในการประชุมพรรคเมื่อปีที่แล้ว ดูเหมือนจะรวมอำนาจของเขาด้วยการขับไล่เจ้าหน้าที่อาวุโสที่ถูกมองว่าเป็นพวกนิยมตะวันตกและสนับสนุนธุรกิจมากกว่า
อย่างเป็นทางการ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในนามของการต่อสู้กับการคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในเวียดนาม แต่เป็นการบ่งชี้ถึงการแย่งชิงอำนาจที่ระดับบนสุดของพรรค ซึ่งไม่อนุญาตให้มีการท้าทายต่อการผูกขาดอำนาจ ไม่น่าจะเปลี่ยนวิถีโดยรวมของเวียดนาม โดยยังคงเน้นที่การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศเพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ก้าวกระโดด และชี้นำเส้นทางทางการทูตที่ละเอียดอ่อนระหว่างจีนและสหรัฐฯ
บทความโดย บาคาร่า gclub
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *